วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

ครั้งแรกกับการไปทำ PASSPORT







ครั้งแรกกับการไปทำ PASSPORT

สำหรับคนที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ อย่างแรกที่ต้องมี
ก็คือการทำ PASSPORT (ทำมาตั้ง 2 ปีละ แต่ยังไม่ได้มีโอกาสไปไหน)
ประสบการณ์ในการทำ PASSPORT ก็ฉายเดี่ยวไปคนเดียวเลย
ไปทำที่กรมการกงสุลสาขาแจ้งวัฒนะ วันที่ไปตื่นเต้นนิดหน่อย
(แล้วจะตื่นเต้นทำไม เนี่ยค่ะตรู) ไปถึงเราก็ต้องรับบัตรคิวก่อน
พอถึงคิวของเราก็เข้าไปมีวัดส่วนสุง เก็บลายนิ้วมือ และถ่ายรูป
ที่นี่เค้าแบ่งเป็นล็อค ๆ เจ้าหน้าที่เยอะมาก
แล้วก็ทำงานไวด้วย ไวมากขนาดที่ถ่ายรูปเสร็จ ยังคิดว่า อ้าว จบแล้วเหรอ
ตอนที่ไปทำ นามสกุลในบัตรประชาชนมีปัญหาคืออ่านแล้วไม่ถูกต้องกับเสียง
ที่อ่านเป็นภาษาไทย เค้าก็เลยถามว่าจะให้ยึดตามบัตรประชาชน หรือเอาตาม
ที่ถูกต้อง ก็เลยถามว่าจะมีปัญหามั้ยถ้าเรายึดตามบัตรประชาชน
เค้าก็บอกว่าไม่มีปัญหาหรอก แต่เวลาที่อื่นเค้าอ่านชื่อเราตาม passport ก็จะไม่ตรง
ก็เลยบอกเจ้าหน้าที่ว่า งั้นก็สะกดตามจริงแล้วกัน จากนั้นเราก็ค่อยไปเปลี่ยน
ในบัตรประชาชนเอา (ก็ยังขอบคุณเจ้าหน้าที่คนนั้นทุกวันนี้ ไม่งั้นนามสกุลใน
บัตรประชาชนก็คงจะเพื้ยนอยู่จนถึงทุกวันนี้)
จากนั้นเราก็ไปจ่ายเงิน เค้าจะถามให้เราเลือกว่าจะเดินทางมารับด้วยตนเอง
หรือส่งทางไปรษณีย์ ซึ่งก็จะเสียเงิน 35 บาท เราก็เลือก
ให้เค้าส่งมาทางไปรษณีย์เพราะสดวกดี

สำหรับคนที่กำลังจะเตรียมตัวไปทำ PASS PORT
เนื่องจากว่ามันมีอายุ 5 ปีก็นานพอสมควร
แล้วที่สำคัญเวลาที่เราทำออกมาดี นี่ดูหน้าภาคภูมิใจ
ยังไงยังงั้นเลย (หรือจะมีแต่เราคนเดียวที่คิดแบบนั้นก็ไม่รู้
เพราะกล้องของราชการนี่ถือว่าเป็นกล้องปราบเซียนกันเลยทีเดียว T^T
ใครถ่ายออกมาดูดี ดูโด่ดเด้ง คิดว่าคุณสามารถเข้าประกวดนางงาม
ได้เลยน่ะ

1.ทรงผม สำหรับคนที่มีผมหน้าม้าบังคิ้ว คิดว่าวันนั้นคงต้องปัด
หน้าม้ากันสักนิดหนึ่งดีกว่าไปถึงแล้วไปปัดผมขึ้นตอนถ่าย
เพราะเจ้าหน้าที่เค้าต้องให้เห็นคิ้วค่ะ (ไม่รู้คิ้วมันจะสำคัญอะไรมากมายขนาดนี้ )


2. แต่งหน้าให้เป็นตัวเอง คืออย่าพยายามอย่าแต่งให้ไม่เหมือนตัวเอง
เพราะไม่อย่างนั้นค่ะเดี๋ยวพอตอนถ่ายออกมาจะกลายเป็นคนละคนกัน
พาลจะมีปัญหากับ ตม อีกคะ เห็นมีคนมีปัญหาเรื่องนี้เหมือนกัน
(แต่ก็คิดว่าเวลาเราก็น่าจะมีปัญหาน่ะ เพราะรูปที่ถ่ายออกมาดูแย่กว่าตัวจริง
จะบอกว่าหน้าตาดีแต่ถ่ายรูปไม่ขึ้น อิอิ)

3. การแต่งตัวเน้นสุภาพสักนิดหนึ่ง ถ้ามีปกได้ก็จะดูดีมากค่ะ
แต่ถ้าใครจะใส่สูท ไปถ่ายแบบเป็นทางการก็ดูดีไปอีกแบบ
(จะสวยแค่ครึ่งบนแล้วครึ่งล่างสบายๆ ก็ไม่มีใครเห็นค่ะ
4. เวลาถ่ายสามารถทำหน้ายิ้มได้ค่ะ แต่อย่าให้เห็นฟัน ตอนที่ไปถ่าย
คงมัวแต่กังวลว่ารูปจะออกมาดีมั้ยเจ้าหน้าที่เค้าเลยบอกให้ยิ้มสักนิดหนึ่ง

สำหรับเอกสารที่เราจะต้องเตรียมไป (สำหรับบุคคลที่บรรลุนิติภาวะ)
1.บัตรประชาชน
2. PASSPORT เล่มเก่า ( ถ้ามี )

สำหรับคนที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมในการทำ PASS PORT
สามารถเข้าไปดูได้ที่ เวปไซค์ของกรมการกงสุล ตามลิงค์นี้ค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554

สถานฑูต กงศุล ของประเทศต่างๆ ประจำประเทศไทย


สถานทูต/กงศุล ของประเทศต่าง ๆ ที่ประจำในประเทศไทย

แหล่งที่มา http://www.fourlens.com/pages/embassy.htm





อาร์เจนตินา
1601 กลาสฮอสบิวดิ้งสุขุมวิท 1 ซ. 25 ถ.สุขุมวิท กทม.
02-2590401-2,02-2599198 FAX:02-2590402
08.30-16.30 (จ-ศ)
embtail@csloxinfo.com


อาร์แมเนีย
ชั้น 28 เล็ก รัชฎา ออฟฟิต คอมเพล็ก193/117ถ.รัชฏภิเษก กทม.10320
02-6618477FAX:02-6618479
09.00-16.00 (จ-ศ)
Armenia@ktech.co.th http://www.armeniaconsulate.or.th/


ออสเตรเลีย
37 ถ.สาทรใต้ กรุงเทพฯ10120
02-2872680FAX:02-28772029
08.30-12.30 (จ-ศ)13.30-16.30 (จ-ศ)
www.austembassy.or.th/embass/make_contact_thai.php
165 ถ.ศิริมังคลาจารย์ต.สุเทพ อ.เมือง เชียงใหม่
053-221083,225975FAX:053-225975-6
09.00-13.30 (จ-ศ)ภูเก็ต0-7624-8334-6

ออสเตรีย
14 ซ.สาธร 1 ถ. สาธรกรุงเทพฯ 10120
02-3036057-9FAX:02-2873925
07.30-15.30 (จ-ศ)

บังคลาเทศ
727 ซ. ทองหล่อถ.สุขุมวิท 55กรุงเทพฯ 10110
02-3929417-8FAX:02-3918070
08.30-16.30 (จ-ศ)

เบลเยี่ยม
44 ซ.พญาพิพัฒน์ ถ.สุขุมวิท 55กรุงเทพฯ 10500
02-2360105FAX:02-2367619
08.30-13.30 (จ-ศ)

บราซิล
ชั้น 34 ลุมพินีทาวเวอร์1168/101 ถ.พระราม 4กรุงเทพฯ 10120
02-6798567FAX:02-6798569
09.00-15.00 (จ-ศ)

บรูไน
132 สุขุมวิท ซ.23กรุงเทพฯ 10110
02-2041476-9FAX:02-2041486
08.30-16.30 (จ-ศ)

ภูฏาน
ชั้น 42 จีเวอร์รีเทรดเซ็นเตอร์ห้อง 4201,919/1 ถ.สีลม กรุงเทพ 10500
02-267-172202-630-1192


บัลแกเลีย
64/4 ซ.เจริญมิตร เอกมัยซ.10 กรุงเทพฯ 10110
02-3916180-1FAX:02-3916182


กัมพูชา
185 ถ.ราชดำริ ปทุมวันกรุงเทพฯ 10330
02-254663002-2537967FAX:02-2539859


แคนาดา
เชียงใหม่ 053-850147
bngkk@dfait-aeci.gc.cawww.Defait-aeci.gc.ca/bangkok
ชั้น 15 อาคารจรัญทาวเวอร์19ถ.สุขุมวิท 43 กรุงเทพฯ
02-6360540FAX:02-6360565
07.30-16.00 (จ-ศ)



ชิลี
984/97 สุขุมวิท 71พระโขนงกรุงเทพฯ 10110
02-2603870-2FAX:02-2165433
08.30-15.30 (จ-ศ)
embajada@chile-thai.comwww.chile-thai.com




คิวบา
5 สุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม 10110
โทรศัพท์ :026652803, 0266616560

จีน
57 ถ. รัชฎาภิเษก ดินแดงกรุงเทพ 10310
02-2457043-402-2457036-7FAX:02-2472214
http://www.chinaembassy.or/. th
111 ถ.ช่างหล่อ ต.หายยาอ.เมือง เชียงใหม่
053-276125FAX:053-274614
09.00-11.30 (จ-ศ) สงขลา07-4322034


สาธารณรัฐเช็ก
71/6 ร่วมฤดี ซ.2ถ.เพลินจิตกรุงเทพฯ 10330
02-255302702-2555060FAX:02-2537637
www.czechembassy.orgbankok@embassy.mzv.cz


เดนมาร์ค
10 ซ.อรรถการประสิทธิ์ถ.สาธร กรุงเทพฯ 10120
02-2132021-5FAX:02-2131752
พัทยา0-3823-1630

สาธารณรัฐโดมินิกัน
92/6 ถ.แจ้งวัฒนะดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210
02-5215000FAX:02-5210737


อียิปห์
ชั้น 42 แลส คอลิแนสกรุงเทพฯ 10330
02-253016102-2538138FAX:02-2549489
10.00-12.00 (จ-ศ)
http://www.mfa.gov.eg/


อียู
ชั้น 19 เคียนกวานเฮาส์2เลขที่140/1 ถ.วิทยุ กทม.10330
02-2559100FAX:02-2559113-4

สาธารณรัฐฟินแลนด์
ชั้น16 อัมรินทร์ทาวเวอร์ 500 ถ.เพลินจิต กทม. 10330
02-2569310FAX:02-2369113-4
07.30-15.45 (จ-ศ)07.30-13.15 (เสาร์)
sanomat.ban@formin.fi www.finland.or.th
104-112 ถ.ท่าแพต.ช้างม่อย อ.เมืองจ.เชียงใหม่
053-874252234812, 234777F.251512

ภูเก็ต
Tel: 0-7633-0530-4 ext 2617Fax: 0-7633-0128
09.00 - 12.00 (จ. - ศ.)
finnishconsul@katagroup.com


ฝรั่งเศส
35 ซ.โรงภาษีเก่า ถ.เจริญกรุง ซ.36 กทม.10500
tel 02-2668250-6FAX:02-2367973
http://www.france.or.th/
พัทยา 0-3871-0800-2
ภูเก็ต 0-7639-1152

เยอรมนี
199/163 หมู่3บ้านในฝัน 2ถ.การคลองชลประทานต.แม่เฮียะ
อ.เมืองเชียงใหม่ 50100 tel 053-838735 08.30-11.30 (จ-ศ)
dekonsul@loxinfo. co.thwww.german-embassy.or.th/haiindex.htm
9 ถ.สาทรใต้ กรุงเทพฯ 10120
02-287900002-2856232FAX:02-2871776
08.30-12.00 (จ-ศ)
rk@german-embassy.or.thinfo@german-embassy.or.th


กรีก
ชั้น30ตึกไทวาฮ์2 21/159 ถ.สาธรใต้ กรุงเทพฯ 10120
02-6791462-4FAX:02-6791463


อินเดีย
46 ซ.ประสานมิตรสุขุมวิท 23 กทม. 10110
02-2580300-6FAX:02-2584627
www.indiaemb. ot.th

ฮังการี
ชั้น 20โอ๊คทาวเวอร์เพลสสิเด้นพาร์คคอนโดมิเนียม 95 สุขุมวิท ซ.24 พระโขนง กทม.
02-6611150-202-6611153
www.mfa.go/hu


อินโดนีเซีย
600-602 ถ.เพชรบุรี กทม.10400
02-2523135-9FAX:02-2551267
http://www.dfa.deplu.go.id/
สงขลา0-7431-1544

อิหร่าน
602 ถ.สุขุมวิท ซ.22-24กรุงเทพฯ 10400
02-2590611-3FAX:02-2714218
09.00-16.00 (จ-ศ)
www.mfa.gov.ir

อิรัก
47 ถ.ประดิพัฒน์สามเสนในกรุงเทพฯ 10400
02-2785335-7FAX:02-2599111


อิสราเอล
ชั้น 25 โอเชี่ยนทาวเวอร์ 275สุขุมวิทซ.19 กทม.10110
02-0492000FAX:02-2049255
www.mfa.gov.il/mfa/home.asp

อิตาลี
399 ถ.นางลั้นจี่ ทุ่งมหาเมฆกทม. 10120
02-2854090-3FAX:02-2854793
09.00-13.00 (จ-ศ)
www.esteri.it/eng/index.htm

ญี่ปุ่น
ชั้น9 เสมมิตรทาวเวอร์ อโศกถ.สุขุมวิท กรุงเทพฯ 10110
02-259044402-259072502-2589915FAX:02-2534143
www.embjp-th.orgjis@eoj.arccyber.com

จอร์แดน
47 สุขุมวิท 63 กรุงเทพฯ 10110
02-3917142FAX:02-3811314


คาคัสถาน
ชั้น43 จิลวิรี่ เทรด เซ็นเตอร์4302,901/501ถ.สีลมกทม.10500
02-6301800-1FAX:02-6301822


เกาหลี
14 หมู่บ้านสวนแหลมทอง2ถ.พัฒนาการ กรุงเทพฯ10250
02-3192686-7FAX:02-3186333
08.30-12.00 (จ-ศ)
23 ถ.เทียม-ร่วมมิตร รัชฎาภิเษก กทม.10320
02-2477537-41FAX:02-2477535


คูเวต
ชั้น24สาธรนครบิวดิ้ง ถ.สาธร กทม. 10500
02-6367451-5FAX:02-6367363


ลาว
520,502/1-3 ซ.รามคำแหง39 บางกะปิ กทม.10310
02-5396667-9 FAX:02-5393827
sabaidee@bklaoembassy.comwww.bkklaoembassy. com


เม็กซิโก
ชั้น20ไทยวาฮ์ทาวเวอร์121/60-62ถ.สาธรใต้ กทม.10120
02-2850995FAX:02-2850667
http://www.sre.gob.mx/




พม่า
132 ถ.สาธรเหนือ ซ.71 กรุงเทพฯ 10500
02-233725002-234478902-2366898
09.00-17.00(จ-ศ)
www.twics.com/~met/ nofa




เนปาล
132 ถ.สาธรเหนือ ซ.71กรุงเทพฯ 10500
02-390228002-3917240Fax 02-3812406
09.00-16.30 (จ-ศ)
http://www.royalnepaleseembassy.org/


เนเธอร์แลนด์
106 ถ.วิทยุ ปทุมวัน กทม. 10330ปณฝ. 404 กทม. 10501
02-2547701-5Fax 02-2545579
08.00-16.00 (จ-พฤ)08.00-12.00 (ศ)
nggorban@loxinfo.co.thwww.bz.minbuza.nl/English/homepage.asp

นิวซีแลนด์
93 ถ. วิทยุ กรุงเทพ ฯ 10330
02-2542530Fax 02-2539045
07.30-16.00 (จ-ศ)
http://www.mfat.govt.nz/



นอร์เวย์
ชั้น 18 UBC 2 บิวดิ้ง สุขุมวิท ซ.33กรุงเทพฯ 10110
02-2610230-5Fax 02-2620218
09.00-16.00 (จ-ศ)
www.em-norway.or.th
พัทยา0-3823-1630

โอมาน
ชั้น 32 แสงทองธานี ทาวเวอร์ 82 ถ.สาธรใต้ กรุงเทพฯ10500
02-6399380-2Fax 02-6399390
www.omanet.com/moi_for.htm




ปากีสถาน
31 นานาเหนือ ซ.3 ถ.สุขุมวิท กรุงเทพฯ 10110
02-2530288-9Fax 02-2530290
08.30-16.30 (จ-ศ)
http://www.forisb.org/


ปานามา
ชั้น 7 สารสินบิ้วดิ้ง 14 ถ.สุรศักดิ์ สีลม กรุงเทพฯ10500
02-2379008Fax 02-2379009
http://www.mire.gob.pa/


เปรู
ชั้น 16 บ้าน ช้างแกลสฮอสบิวดิ้ว 1สุขุมวิท 25 กรุงเทพฯ 10110
02-2606243Fax 02-260624502-2066244
www.rree.gob.pe/dominc/nsf/rree.nsf/pages/rree


ฟิลิปปินส์
760 ถ.สุขุมวิท ตรงข้าม ซ.47 กรุงเทพฯ 10110
02-2590139-40Fax 02-2592809
www.philembassy-bangkok.netinquiry@philembassy-bangkok.net



โปแลนด์
ศรียุคอน บิวดิ้ง สุขุมวิท ซ.5กรุงเทพฯ 10110
02-2518891-4Fax 02-2518895
09.00-16.00 (จ-ศ)
www.msz.gov.pl/english/indexsang.htm




โคลัมเบีย
ชั้น 9 อาคาร Paek 231ถ.สารสิน ลุมพินี กทม. 10330
02-2545106-8Fax 02-2455109


โปตุเกส
26 อาคารบุซเลน กรุงเทพฯ10500
Fax 02-234212302-2384275


สิงคโปร์
129 ถ.สาธรใต้ กรุงเทพฯ 10500
02-286211102-2861434Fax 02-2872578
08.00-16.30 (จ-ศ)

โรมาเนีย
150 เจริญพร ซ.1ถ.ประดิพัฒน์กรุงเทพฯ 10400
02-2797902Fax 02-6182458
www.embassy-romania.org/start.html


รัสเซีย
78 ถ.สาธรเหนือกรุงเทพฯ 10500
02-2681169Fax 02-2378488
www.ln.mid.ru/website/bul_ns_en.nsf/arfflat/en01


ซาอุดิอาราเบีย
ชั้น 23 แสงทองธานีบิวดิ้ง 82 ถ.สาธรเหนือ กรุงเทพฯ10500
02-6392999Fax 02-6392950
09.00-15.00 (จ-ศ)

สโลวเกีย
พันธุ์ทิพย์ คอร์ท ชั้นเม็ซซาไนท์
02-2850220-1Fax 02-2850223


แอฟฟริกาใต้
ชั้น 6 ปาร์ค เพลส 231ซ.สารสิน ลุมพินี กทม.10330
02-2538473-6Fax 02-2538477
http://www.visaservices.co.za/


สเปน
ชั้น 7 (701-702) เดียเธียมทาวเวอร์(ทาวเวอร์ A) 93/1ถ.วิทยุ กทม.10330
02-2526112Fax 02-2552388
08.30-15.30 (จ-ศ)
http://www.embesp.or.th/


ศรีลังกา
ชั้น 13 อาคาร โอเซี่ยนทาวเวอร์ 2 75/6 สุขุมวิท ซ.19 กรุงเทพฯ 10110
02-2611934-5Fax 02-2611936


สวีเดน
ชั้น 20 แปซิฟิกเพลส 1 สุขุมวิท 140 กรุงเทพฯ 10110
02-3020360Fax 02-2544914
http://www.embassy-sweeden.or.th/




สวิตเซอร์แลนด์
35 ถ.วิทยุ กรุงเทพฯ 10330
02-2530156-60Fax 02-2554481


เลบานอน
191/67 C.T.I ทาวเวอร์ ชั้น 15 ถ.รัชฎาภิเษก 19คลองเตย
02-2612013Fax 02-2611015


ไต้หวัน
8/15-16 สุขุมวิท ซ.3/1ถ.สุขุมวิทคลองเตยกรุงเทพฯ 10110
02-2514517Fax 02-6503652
www.mofa.gov/emofa/eindex.html


สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรท
ชั้น 25 อาคารแสงทองธานี82 ถ.สาธรใต้ กรุงเทพฯ10500
02-6399820-2Fax 02-6399818


มาเลเซีย
ชั้น 15 รีเจ้นเฮาร์ 183ถ.ราชดำริ ปทุมวัน กทม.10330
02-2541706Fax 02-2538970 เวลา 09.00-17.00 (จ-ศ)
สงขลา 0-7431-1602

ตรุกี
61/1 ซ.ชาติสน ถ.สุทธิสารกรุงเทพฯ 10310
02-2747262-3Fax 02-2747261
09.00-17.00 (จ-ศ)

โมร็อคโค
บ้าน ช้างแกลส ฮอลบิวดิ้งสุขุมวิท 25 คลองเตย กทม.
02-2606410-1Fax 02-2606412


อเมริกา
387 ถ.วิชชานนท์ อ.เมืองเชียงใหม่ 50300
053-252629Fax 053-252633
08.00-10.30(จ-ศ)
www.usa.or.th/consulcm/consulcm.htm

เวียดนาม
83/1 ถ.สุขุมวิท กทม.10500 โทร 02-2517202
ขอนแก่น 0-4324-2190

อังกฤษ
193 อาคารบริทิช เคาร์ซิลถ.บำรุงราฎษร์ อ.เมืองจ.เชียงใหม่ 50000
053-263015Fax 053-263016
09.00-11.30 (จ-ศ)


อุสเบกิสสถาน
138/5 ซ.ทองหล่อ 2ถ.สุขุมวิท 55 กรุงเทพฯ10110
02-7128883Fax 02-3913323
www.uzbinbkk.org

เยเมน
45/4 สุขุมวิท ซ.3 สุขุมวิทกรุงเทพฯ 10110
02-6503301-4
www.croatewb.or.id


อินเดีย
344 ถ. เจริญราษฎร์ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
053-41344053- 243066Fax 053-247875


สวีเดน
อาคารวายเอ็มซีเอ ชม11 ซอยเม็งรายรัศมี ถ.เจริญสุขอ.เมือง จ.เชียงใหม่
053-220844053- 210872
พัทยา 0-3823-1630
ภูเก็ต 0-7632-7006

ยูโกสโลเวีย
28 สุขุมวิท ซ.61 กทม.
02-3919091


ไซปรัส
ชั้น 17 ตึกริชมอนด์ 75/79สุขุมวิทซอย 26 กทม. 10110
0-2261-8408-9


เคนยา
578 สุขุมวิท 71กทม. 10110
0-2381-9640-1


มาลี
ชั้น 12 ตึกอรการ 26/42 ซ.ชิดลม ถ.เพลินจิต ปทุมวันกทม. 10330
0-2254-1490-7


ลัตเวีย
113/13 ถ.สุรวงศ์กทม.10500
0-2266-5931


เอธิโอเปีย
954/32 ห้อง 406พรานนกพลาซ่า ถ.พรานนกกทม. 10700
0-2583-3993


สาธารณรัฐเอสโตเนีย
62 ซอย ยศสุวรรณถ. ประชาอุทิศ ห้วยขวางกรุงเทพ
0-2690-3779Fax: 0-2690-3778
consul@estonia.or.th http://www.estonia.or.th

เทคนิคพิชิตใจชาย




เคยสงสัยกันบ้างไหมค่ะ ว่าทำไม ผู้หญิงบางคนไม่ค่อยสวยแต่มีแฟนหน้าตาดี แล้วก็ดูรักกันมากๆ แต่ทำไมผู้หญิงสวยๆบางคนยังอยู่เป็นโสดทั้งที่หน้าตาดี และหน้าที่การงานดี วันนี้ก็เลยไปค้นหาในแล้วก็นำมาสรุปให้หลายๆคนที่ยังสงสัยว่าทำไม ทำไม และทำไม รวมทั้งคนเขียนเอง 5555

1. ต้องรู้จักเอาใจ

คงไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกค่ะ ที่ชอบผุ้หญิงเอาแต่ใจเพราะปกติของผุ้ชายร้อยทั้งร้อยก็ชอบให้ผู้หญิงเอาใจ(อาจมีบ้างคบกันใหม่ๆ ที่ผู้ชายจะต้องเอาใจผู้หญิง พอเราตกลงปลงใจ ทำไมทุกอย่างมันกับกันไปหมด เฮ้อ !! พูดแล้วเศร้า) เพราะฉนั้นเคล็ดลับมัดใจ ก็เอาใจเค้าเยอะๆน่ะคะ เพราะชายบางคนบอกว่านี่คือสุดยอดแห่งปรารถนา ก็ว่ากันไปเนอะ

2. อ่อนหวาน,อ่อนโยนและออดอ้อนในบางครั้ง

สำหรับผู้ชายตามนิสัยก็ชอบที่ปกป้องหญิงงคนรักอยู่แล้วค่ะ โดย เฉพาะผู้หญิงที่อ่อนหวาน แล้วก็อ่อนโยน สำคัญต้องมาจากจิตใจ ที่แท้จริงไม่ใช่เสแสร้งแกล้งทำ แต่ถ้าสำหรับสาวห้าว แนะนำ บางครั้งเราก็ต้องอ่อนแอ ออดออ้น ให้ผู้ชายดูแล ปกป้องเราบ้างค่ะ เค้าจะได้ภูมิใจที่มีส่วนได้ดูแลเรา แต่ก็ไม่ใช่เยอะจนเกินงามน่ะค่ะ จากที่ดูน่ารัก ก็จะกลายเป็นน่ารำคาญแทน


3.มีน้ำใจ

ไม่ปฏิเสธใช่มั้ยคะ ว่าเราชอบคนมีน้ำใจกับผุ้อื่น โดยเฉพาะคนที่มีน้ำใจกับเรา เพราะทำให้เรารู้สึกว่าเค้าและเธอช่างเป็นคนดีเสียนี่กระไรแล้วอีกอย่างคนใจดำมักไม่ค่อยมีใครคบหรอกค่ะ เอาละงั้นเราเริ่มมาเป็นคนดีมีน้ำใจเริ่มจากคนรักก่อน แล้วก็คนใกล้ชิดค่ะ

4.มีอารมณ์ขัน

"คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง" ก็น่าจะใช้ได้กับหัวข้อนี้
ผู้หญิงบางคนที่หน้าตาไม่ดีแต่เป็นคนมีอารมณ์ขัน ทำให้ใครๆ

ก็อยากอยู่ใกล้เพราะอยู่แล้วไม่เครียด แถมยังสบายใจ เป็นใครจะไม่อยากใกล้ล่ะคะ

5.เปิดเผย และเป็นตัวของตัวเอง

เค้าบอกว่าอะไรที่เราแกล้งทำมักทำไม่ได้นาน เพราะมันไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเรา บางคร้งเราก็ต้องเป็นตัวของตัวเองบ้าง แต่ก็ไม่ใช่แสดงออกมามากจนน่าเกลียด ทางที่ดีสิ่งในที่เรารู้ว่าเป็นข้อดีของเราเราก็แสดงออกมาให้คนรักเห็น สิ่งไหนที่คิดว่าไม่ดีเราก็พยายาม อย่าแสดงออกมามากจะเป็นการดีที่สุดค่ะ


6.รู้จักดูแลตัวเอง

เกิดเป็นหญิงทั้งที ถึงแม้ว่าเราหน้าตาไม่สวยแบบนางเอกหนัง หุ่นไม่ดีแบบนางแบบแต่ถ้าเรารุ้จักดูแลรูปร่าง หน้าตา และความสะอาด ไม่จำเป็นต้องสวยเลิศ ขอแค่รู้จักดูแลตัวเอง ไปไหนก็ดูดีได้ค่ะ แล้วอีกอย่างผู้ชายจะชอบมากผู้หญิงที่ดูดีภายนอกแถมภายในยังจิตใจดีอีกต่างหาก ยังไงก็หมั่นหาเวลาดูแลตัวเองกันบ้างนะค่ะ

วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

มาดูนิสัยหนุ่มต่างประเทศ





หัวข้อนี้ น่าจะเป็นอะไรที่พอจะช่วยได้บ้างสำหรับสาวๆ หลายคนที่อยาก
จะรู้นิสัยของหนุ่มประเทศอื่นๆ ว่าเป็นยังไงกับบ้าง ยังไงก็ฟังหู ไว้หูน่ะคะ
เพราะคนเราก็ไม่เหมือนกันหมดทุกอย่างหรอกแต่ที่อ่านๆมาก็น่าจะใก้ลเคียง
กันตามนี้น่ะคะ แต่หัวข้อนี้ไม่ได้เขียนเองคัดลอกเค้ามาอีกที ต้องขอขอบคุณ
แหล่งที่มา http://myheartlight.multiply.com/journal/item/5/5


ไปค่ะเราไปดูกันว่าหนุ่มๆ แต่ละประเทศเป็นยังไงกันบ้าง ^^



หนุ่มอเมริกัน
เมื่อพูดถึงหนุ่มๆ อเมริกันคงต้องแยกเป็น 2 รุ่นคือ รุ่นเล็กกับรุ่นใหญ่(หมายถึงอายุนะอย่าคิดมาก) ถ้าเป็นหนุ่มวัยขบเผาะ พวกนี้จะชอบเที่ยวเตร่ครื้นเครงไปเรื่อย ทำตัวเหมือนไม่มีพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพราะไม่ค่อยสนใจครอบครัวเท่าที่ควร แต่ถ้าเป็นหนุ่มรุ่นใหญ่วัยทำงานตั้งแต่ 30ขึ้นไป พวกนี้จะเริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น เพราะผ่านอะไรมาเยอะแล้ว เลยมักตั้งใจทำงานจนบางทีดูเหมือนว่าเคร่งเครียดเกินไป
แต่ ที่เหมือนกันคือ อเมริกันชนเป็นพวกรักอิสระเสรีเหนือสิ่งอื่นใด ดังเทพีเสรีภาพประจำบ้านเกิดเค้านั่นแหละ และเนื่องอเมริกาเป็นประเทศที่มีเบ้าหลอมหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ ดังนั้นหนุ่มอเมริกันจึงมีนิสัยค่อนข้างหลากหลาย รวมทั้งประกอบอาชีพก็หลากหลายด้วยเช่นกัน คือทำได้หมดตั้งแต่สากกระเบือ ยันเรือหางยาว ชอบเฮฮาปาร์ตี้แบบเฮไหนเฮนั่น เป็นคนชอบเปิดเผย พูดตรง แต่ก็ไม่เคยลืมหน้าที่หัวหน้าครอบครัวที่ดี มีความรับผิดชอบสูง ตรงต่อเวลา อันนี้เป็นคุณสมบัติเด่นของพ่อหนุ่มผมทองอยู่แล้ว
ทว่า มีข้อเสียคือ หนุ่มมะกันทั้งหลายมักจะเป็นพวกเอาแต่ใจตัวเองมั่นใจในตัวเองสูงมาก หรือที่เรียกว่า มีอีโก้(อย่าเรียกผิดเป็นอีโต้ละ) คิดว่าตัวเองมีดีกว่าคนอื่น จึงไม่ค่อยโอนอ่อนผ่อนตามอะไรง่ายๆ โดยอาจรวมถึงบรรดาภรรเมียของพวกเขาด้วยแต่ถ้าถามว่าหนุ่มอเมริกันรัก เมียไหม...ขอตอบว่า มากกกก เขาก็รักเมียใช่ย่อย เพราะปกติผู้ชายอเมริกันมักประสบปัญหาการหย่าร้างสูงในประเทศเขา เนื่องจากผู้หญิงอเมริกันนั้นไม่ค่อยแยแสพวกผู้ชายเท่าไหร่ ชอบทำตัวแบบตัวใครตัวมัน ไม่ค่อยแคร์ และนิยมอยู่เป็นโสดกันมากขึ้น
เมื่อเป็นเช่นนี้หนุ่มอเมริกันจึงมักมองหาสาวๆ จากนอกประเทศแทนยิ่ง ถ้าเป็นสาวๆในแถบเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์หรือไทยด้วยแล้วต่อมปิ๊งยิ่งทำงานใหญ่ ซึ่งพวกเขาถือว่าการได้เมียเป็นคนเอเชียนั้นเจ๋งสุดยอดแล้ว เป็นเรื่องที่น่าอิจฉาตาร้อน เพราะเขามองว่าผู้หญิงเอเชียนั้นมีความอดทน อ่อนโยน ปรนนิบัติสามีได้ดี แถมพ่อแม่สามีก็พลอยได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย และที่สำคัญการได้ภรรยาชาวเอเชียนั้นยังสามารถลดหย่อนภาษีได้อีกต่างหาก เรียกว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มถ้ามีเมียเป็นสาวเอเชีย





หนุ่มออสซี่
ต้องบอกเลยว่าประเทศ ออสเตรเลียนั้นเป็นชาติแห่งการผสมผสานเพราะ เคยอยู่ในการปกครองของประเทศอื่นมาก่อน ฉะนั้นผู้ชายออสเตรเลีย จึงมีหลายเชื้อชาติ หลายบุคลิก หลายลักษณะนิสัยปนกันไป ไม่มีอะไรที่สามารถบ่งบอกความเป็นออสเตรเลียได้ชัดเจนดังนั้นหากพูดถึง นิสัยหนุ่มออสซี่แล้ว ก่อนอื่นคงต้องดูก่อนอื่นต้องดูก่อนว่าเค้าเป็นหนุ่มออสซี่เชื้อสายอะไรกัน แน่ ถ้าเป็นหนุ่มอิงลิชออสซี่ นิสัยก็จะเหมือนหนุ่มอังกฤษประมาณนั้น แต่ถ้าเป็นพวกอเมริกันออสซี่ ก็จะมีนิสัยละม้ายคล้ายอเมริกันเสียมากกว่า แต่รวมๆแล้วหนุ่มออสซี่จะมีนิสัยคล้ายหนุ่มอังกฤษมากที่สุด เด่นๆคือ ความตระหนี่ จะจ่ายเงินทีคิดแล้วคิดอีก แต่ข้อดีเค้าก็มีเหมือนกัน คือเป็นคนตั้งอกตั้งใจทำงาน ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักประกอบอาชีพนักธุรกิจเป็นหลัก ไม่ค่อยคิดมาก จนบางครั้งอาจดูไม่ค่อยแคร์ และเลยไปถึงไม่ค่อยแฟร์ด้วย
ตามปกติแล้วคนอเมริกันไม่ค่อยย้ายรกรากไปอยู่ ออสเตรเลียมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นคนฮอลแลนด์ คนยุโรป ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ จีน หรือไทย ที่เข้าไปทำงานเสียส่วนมาก ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ต้องทำใจ และไม่ควรมองข้ามคือ คนออสเตรเลียไม่ค่อยเปิดใจยอมรับคนผิวเหลืองมากเท่าไหร่ ซึ่งเขาจะมีสมาคมต่อต้านคนผิวเหลืองโดยเฉพาะ สืบเนื่องมาจากคนในประเทศเขามองว่า ผู้หญิงไทยเป็นผู้หญิงอย่างว่า ไปซะหมด แต่จะมีการยอมรับในตัวบุคคลก็จะมีในวงแคบเท่านั้น แต่ก็มีหนุ่มออสซี่มากมายที่แต่งงานกับสาวไทยและได้อยู่กินกันอ ย่างมีความสุขก็มิใช่น้อย เพราะข้อดีที่เห็นได้ชัดของหนุ่มออสซี่คือ มีความรับผิดชอบต่อตัวเองและครอบครัวสูง มีความสามารถในการประกอบอาชีพ ทำมาหากินเก่ง และมีความเป็นลูกผู้ชายมาดแมน หล่อสุดหยุดโลก







หนุ่มอังกฤษ
เมืองผู้ดีขึ้น ชื่อว่าเมือง ผู้ดีอังกฤษ หนุ่มอังกฤษจึงเป็นพวกผู้ดีสมชื่อ สุขุมนุ่มลึก ดูดีมีสกุล ไม่ค่อยทำตัวขี้เล่นให้เสียฟอร์มเป็นอันขาด ผู้ชายอังกฤษมักเป็นพวกซีเรียส จริงจังกับชีวิตมาก ดังนั้นบุคลิก แบบหนุ่มๆไทย คารมเป็นต่อรูปหล่อเป็นรองที่จะทำให้สาวๆ ขำกลิ้งจนระทวยนะไม่มีทางพบเห็นในหนุ่มอังกฤษนักหรอก สาวๆทั้งหลายมั่นใจได้เลยว่าหนุ่มอังกฤษจะไม่สำมะเลเทเมาเละเทะ ให้เห็นอย่างแน่นอน
แต่ถ้าหากโชค ร้าย ก็อาจเจอหนุ่มอังกฤษหลายรายเป็นพวกเห็นแก่ตัวสุดๆ ชอบโชว์ออฟว่าตัวเองเป็นแฟมิลี่แมน หรือหัวหน้าครอบครัวในฝัน แต่ที่แท้มันก็แค่การสร้างภาพ หรือทำไปตามหน้าที่เท่านั้น เพราะในประเทศอังกฤษค่าครองชีพค่อนข้างสูง ทุกคนจึงต้องทำงานแข่งกับเวลากันหมด ดังนั้นหัวหน้าครอบครัวทั้งหลาย อาจไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกเมียเท่าที่ควรตระหนี่ มัธยัสถ์ ประหยัด ถึงขั้นขี้เหนียว คือคำจำกัดความของผู้ชายอังกฤษที่เหมาะสมที่สุด เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ เขาจะตระหนี่มาก ต้องคิดทุกครั้งทุกเรื่องที่จ่าย เมื่อคบกันแล้วพยายามอย่าหวังว่าเค้าจะซื้อของแพงๆ มาประเคนให้ และถ้าแต่งงานด้วยกันแล้วก็คงไม่สามารถฟุ้งเฟ้ออย่างฝันว่าจะได้ใช้ชีวิตแบบ วิคตอเรีย เบ็กแฮมอย่างแน่นอน
ฉะนั้น สาวๆที่แต่งงานกับหนุ่มอังกฤษจึงอาจไม่ได้เป็นคุณนายนั่งนับเงินดังที่คิด ไว้ ส่วนใหญ่แต่งงานแล้วต้องช่วยกันทำมาหากิน ที่โน่นคนอังกฤษจัดว่าเป็นเสือยิ้มยาก หน้าตาเลยดูเครียดตลอด หลักๆแล้วก็คงมาจากฟอร์มจ้ดนั่นแหละไม่มีอะไร และที่สำคัญหนุ่มๆ ชาตินี้จะนึกถึงตัวเองเป็นหลัก ไม่ค่อยนึกถึงระบบสถาบันครอบครัว เพราะประเทศเขาจะถนัดแบบต่างตนต่างอยู่ ตรงกันข้ามกับคนไทยที่รักและเอาใจใส่ครอบครัวพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง จนอบอุ่น (จนถึงร้อน) แต่ถ้าสาวไทยคิดจะเข้าหาหนุ่มอังกฤษนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะหนุ่มอังกฤษนั้นเป็นพวกเปิดใจ ก็แค่ยอมๆ ทนๆ กับฟอร์มเค้าหน่อยแล้วกัน



หนุ่มฝรั่งเศส
มีดีตรงที่มีความรับ ผิดชอบสูงไม่แพ้ชาติใด และด้วยบรรยากาศในประเทศที่สุดแสนจะโรแมนติกจึงทำให้หนุ่มหล่อเมืองดินแดน น้ำหอมนี้ซึมซับความโรแมนติกมาไว้เป็นนิสัยแบบเต็มๆ ผู้ชายฝรั่งเศสจะพิถีพิถันมากในเรื่องการแต่งตัว ทั้งเสื้อผ้า หน้า ผม ต้องดูดีตลอด บางครั้งของใช้อาจไม่ต้องแพง แต่ต้องดูดีมีสกุล แต่ไม่ได้หมายความว่าหนุ่มฝรั่งเศสจะฟุ่มเฟือยไปซะหมด
โดย ทั่วๆไปแล้วหนุ่มชาตินี้มีรสนิยมสูง เพราะประเทศฝรั่งเศสมีวัฒนธรรมการกินอยู่ที่ดี หรูหรา มีระดับ และมีความเป็นชาตินิยมเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ดังนั้นผู้ชายฝรั่งเศสจะมีความมั่นใจในตัวเองสูง หากคนภายนอกมองอาจคิดว่าเห็นแก่ตัวนิดๆ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย โดยเฉพาะเรื่องครอบครัวเขาจะเอาใจใส่มาก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นครอบครัวต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก เรื่องอื่นค่อยว่ากันตามคิว
แต่ถ้ายังไม่ ได้แต่งงาน เป็นฝั่งเป็นฝาหนุ่มๆ เมืองน้ำหอมอาจมีบ้างเจ้าชู้ตามประสาผู้ชายพายเรือทั่วไป ซึ่งเขาจะถนัดในการโปรยเสน่ห์ให้สาวๆ เคลิบเคลิ้มแต่นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะไม่ว่าผู้ชายชาติไหนก็ต้องชอบสาวๆ (ถ้าไม่ใช่อีแอบนะ) ผู้ชายฝรั่งเศสนับว่าเป็นหนุ่มที่มีเสน่ห์ไม่เบาเลยทีเดียว เพราะพูดจาก็แสนหวานหู สุภาพ เรียกว่าคารมเป็นต่อรูปหล่อเป็นรอง สาวไหนไม่รักก็บ้าแล้ว
แต่ถ้าแต่งงาน แล้วเค้าจะ เป็นคนที่รักครอบครัวมาก ให้เกียรติภรรยาไม่นิยมมีภรรยาพร้อมกันทีละหลายๆ คนหลายตำแหน่ง จึงลืมไปได้เลยว่าหนุ่มฝรั่งเศสจะมีเมียน้อย (ไม่เหมือนหนุ่มไทยไม่ชอบมีเมียน้อย เลยมีมันซะเยอะเลย) นอกจากนั้นยังชอบพาภรรยาไปอวดโฉมตามงานต่างๆ ออกหน้าออกตางานสังคมไม่ขาด ไม่เหมือนชายไทยชอบเก็บเมียไว้บ้านจนทึนทึก แล้วควงกิ๊กไปแทน แต่ทว่าถึงคราวเตียงหัก อย่าคิดว่าจะมีกาวดีมาต่อให้ติดได้ เพราะผู้ชายฝรั่งเศสจะถือคติ เลิกแล้วเลิกเลย ไม่มีเกียร์ถอยหลังแน่นอน





หนุ่มเยอรมัน
ว่ากันว่าหญิงไทยใยอดีตที่ตกร่องปล่องชิ้นกับหนุ่มเยอรมันนั้นต้องเหนื่อยตา เหลือกทุกราย เพราะดันได้สามีชั้นแรงงาน ชีวิตเลยต้องอดทนตกระกำลำบาก เพราะต้องแบกหามเพราะคุณสามีใช้ให้ทำงานหนัก
แต่ เดี๋ยวนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไป ชีวิตหนุ่มเยอรมันเขาก็พัฒนาและทำความรู้จักกับวัฒนธรรมไทยในทางที่ดีขึ้น อาจเป็นเพราะทุกวันนี้ประเทศเยอรมนีเต็มไปด้วยผู้คนจากหลากหลาย เชื้อชาติ ชาวเยอรมันจึงชอบที่จะเรียนรู้และให้โอกาสคนชาติอื่นๆ มากกว่าแต่ก่อน นอกจากนั้นหนุ่มเมืองเบียร์ยังมีนิสัยตรงไปตรงมาราวกับไม้บรรทัดเหล็ก จริงใจไม่จิงโจ้ เทกแคร์(สาวๆ) ดีมาก ไม่ชอบเอาเปรียบใคร และไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบด้วย นอกจากนี้หนุ่มเยอรมันยังมีความรอบคอบในการใช้เงินสูง รู้จักเก็บ รู้จักใช้ และมีการวางแผนชีวิตที่น่านับถือ ดังนั้นสาวๆ มั่นใจได้เลยว่าชีวิตคู่กับหนุ่มเยอรมันจะไม่มีคำว่ากัดก้อนเกลือกินแน่
ส่วนมากผู้ชายเยอรมันที่เดินทางมาเที่ยวประเทศไทย มักประทับใจใน วัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะเรื่องความโอบอ้อมอารีและเป็นกันเอง ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และมีสภาพครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่น เลยทำให้หนุ่มเยอรมันชนชั้นกลางเลยไปจนถึงชนชั้นล่างส่วนใหญ่ใฝ่่ฝันว่าชาติ นี้จะแต่งงานกับหญิงไทยให้ได้ แต่สาวไทยต้องคำนึงถึงว่าผู้ชายเยอรมันมาเที่ยวเมืองไทยนั้น เขาใช้ชีวิตแบบจ่ายเงินง่าย(รูดปื๊ดๆ) ไม่คิดมากเพราะสกุลเงินเขากับเรามันต่างกัน เขาใช้เงินยูโรของเยอรมัน เราใช้สกุลเงินบาท จึงอย่าหลงไหลได้ปลื้มว่าเขามีอันจะกินทุกราย
ปัจจุบันผู้หญิงไทยและผู้ชายเยอรมันมีการเรียนรู้ กันมากขึ้น มีไม่น้อยที่สาวไทยทดลองไปอยู่เยอรมันก่อนแต่ง เพราะผู้ชายเยอรมันเองก็ไม่อยากแต่งๆ หย่าๆ เนื่องจากเค้านับถือคาทอลิก ยึดถือการแต่งงานเพียงครั้งเดียว ที่สำคัญกฎหมายที่นั่นเค้าเด็ดขาดมาก หากผู้ชายลองหย่าเมียเมื่อไหร่รับรองว่าหมดตูดแน่ๆ ซ่าไม่ได้อีกนาน ดังนั้นมีความรับผิดชอบมากกว่าผู้ชายไทยหลายเท่าตัว แถมยังให้เกียรติ เคารพสิทธิ มีความซื่อสัตย์ จริงใจกับภรรยาในเกณฑ์ดีถึงดีมาก
แต่ ทว่าน่าเสียดายที่กลุ่มผู้ชายเยอรมันที่มีการศึกษาสูงและมีฐานะดีถึงดีมาก นั้น มักไม่ค่อยมองสาวๆ ต่างชาติเท่าไหร ส่วนใหญ่มักเลือกลงเลยกับผู้หญิงชาติเดียวกัน เว้นเสียแต่ว่าทั้งคู่นั้นเรียนมาด้วยกัน ก็เลยพัฒนาความสัมพันธ์มาจากเพื่อนสนิท จนกลายเป็นคู่รักในที่สุด แต่ถ้าหนุ่มๆ เยอรมันเกรดดีๆ จะเลือกสาวต่างแดนมาแต่งงานด้วย จะเลือกผู้หญิงที่มีระดับทัดเทียมกัน ทั้งเรื่องการศึกษาและฐานะ
นอกจากนี้การเลือกคู่ครองของคนเยอรมัน ใช่ว่าทุกคนจะเห็นดีเห็นงามกับการเลือกคู่ครองกับผู้หญิงต่างชาติไปเสียหมด ทุกวันนี้ก็ยังมีผู้ชายเยอรมันหลายคนที่ดูถูกการที่มีสามีหรือภรรยาเป็นชาว เอเชีย เพราะถือว่าคนที่มีคู่ครองเป็นชาวต่างชาตินั้นจะไม่เป็นที่ยอมรับของคนใน ชาติ

หนุ่มสวิส
มีหนุ่มๆสวิสไว้เป็น คู่ ก็เปรียบเสมือนมีนาฬิกาชั้นนำไว้ประดับกาย แต่จะได้หนุ่มแบบโรเลกซ์หรือไม่นั้น เรียกว่าตาดีได้ตาร้ายเสียจ้า
ปกติแล้วพื้นฐานนิสัยของหนุ่มสวิส นั้นมักจะสนใจแต่เรื่องตัวเองเป็นหลัก ไม่ค่อยสนใจชาวบ้านชาวช่องว่าใครเป็นใครบ้าง และในขณะเดียวกันก็ไม่ค่อยอยากให้ใครมายุ่มย่ามในชีวิตส่วนตัวด้วยเช่นกัน ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนฝรั่งที่เค้านิยมอยู่แบบตัวใครตัวมันอยู่ แล้ว ไม่มีไปชะโงกชะแง้หรอกว่าบ้านคนอื่นเค้าตื่นกันกี่โมง กลับกี่โมง กลับกับใคร ฯลฯ ผิดกับคนไทยที่ชอบนักเชียว เมื่อเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร ไอ้พวกเรื่องเม้าท์แตกซุบซิบนินทา หรือเรื่องอิจฉาริษยาจึงไม่มีให้เห็นบ่อยนัก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีหนุ่ม สวิสส่วนมากมักประกอบอาชีพอิสระ ไม่ชอบเป็นลูกจ้างใคร แต่เป็นคนเจ้าระเบียบ ทำอะไรต้องมีระบบไปหมด เช่น เขาจะมีการวางแผนการใช้เงินแต่ละเดือนอย่างครบถ้วนมีกฎเกณฑ์ในก ารให้เงินเมีย คิดรวบยอดให้เสร็จสรรพว่าเมียควรใช้เท่าไหร่ และตัวเขาควรใช้เท่าไหร่ในแต่ละเดือน
ส่วน เรื่องความรับผิดชอบครอบครัวไม่ต้องพูดถึง หากได้สามีเป็นหนุ่สสวิส แล้วละก็ห้าห่วงทนหายห่วง ไม่มีคำว่าขาดตกบกพร่อง เพราะเขาจะรับผิดชอบเลี้ยงดูครอบครัวเป็นอย่างดี ไม่ปล่อยให้ลูกเมียอดๆ อยากๆ หรือต้องขายขี้หน้าใคร เพราะขืนปล่อยแบบนั้น เขานั่นแหละจะขายขี้หน้าคนอื่นตายเลย
แต่ อย่าหวังว่าหนุ่มสวิส นั้นจะชอบอยู่แบบครอบครัวใหญ่ๆเหมือนคนไทย เช่น อยู่กับพ่อแม่ ปู่ย่า ตาทวด ญาติเมียเดินกันยั้วเยี้ย เขาเหมือนฝรั่งทั่วไปคือ ชอบครอบครัวเดี่ยวมากกว่า อยู่กันตามประสา พ่อแม่ลูกเท่านั้น เนื่องจากไม่ชอบความวุ่นวายเข้าไส้ ดังนั้นสาวไทยคนไหนที่หวังจะขนโครต เหง้าศักราชไปอยู่ร่วมบ้านกับสามีชาวสวิส แล้วละก็ คิดผิดคิดใหม่ได้นะน้อง เพราะคุณอาจจะได้อยู่กับญาติสมใจ ส่วนเขาก็ไปหาบ้านใหม่ที่สงบสุขอยู่แทน

หนุ่มอิตาลี
เมื่อเอ่ยถึงประเทศ อิตาลี จะนึกถึงอะไรถ้าไม่ใช่สปาเก็ตตี้ ไวน์ หรือผู้ชายหล่อๆ(อันหลังนะสำคัญสุด) ซึ่งเหล่าอิสตรีทั้งแท้และเทียมต่างหลงใหลใฝ่ปองกันมาก ไม่ว่าจะเป็นยุคไหนสมัยไหนก็ตาม
นิสัย ชาวอิตาเลี่ยนก็เรียกว่าปนๆ กันไป คนดีมีเยอะ คนเลวก็แยะไม่แพ้กัน หนุ่มอิตาเลี่ยนมักเป็นพวกจริงจัง มุ่งมั่นขยันขันแข็ง และถ้าศึกษานิสัยให้ดีแล้วจะรู้ว่านิสัยใจคอของชาวอิตาเลี่ยนนั้นดีมาก คุยตลก สนุกสนาน เป็นกันเอง พูดจาเสียงดัง คุยกันทีเหมือนจะทะเลาะกัน...แต่เปล่า นั่นแหละที่เขาเรียกว่าคุย แล้วเวลาคุยหนุ่มๆอิตาลีมักจะใช้มือประกอบลีลาเวลาพูดคุย จนมีคำพูดว่า ถ้าเอาเชือกผูกมือไว้แนบกับลำตัว คนอิตาลีจะพูดไม่ออกแน่ๆ
คน อิตาลีจะเน้นเรื่องการกิน อยู่ หลับ นอน เป็นหลัก เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตที่จะละเลยไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องอาหาร เขาจะพิถีพิถันเน้นเป็นพิเศษ ถึงหนุ่มอิตาลีจะหน้าตาเข้มข้นหวานมัน แต่เขาก็ไม่ค่อยชอบอาหารรสหวานเท่าไรนัก ส่วนเรื่องที่หลับที่นอนก็ไม่แพ้กัน ต้องสะดวก สะอาด สบาย อย่าให้มีจิ้งจกตุ๊กแกเชียว เพราะพี่แกกลัวขึ้นสมอง ซึ่งก็เข้าทางสาวไทยซึ่งเอาใจสารพัด ยิ่งสาวไทยที่มีฝีมือการทำครัวด้วยแล้ว นี่ก็สเป๊กพี่แกเลยทีเดียว
และก็ไม่ต้องห่วงว่าหนุ่ม อิตาลีจะทำแค่หล่อไปวันๆ พึ่งพาไม่ได้ เพราะเขามีการวางแผนการใช้จ่ายที่เป็นระบบ มีกฎเกณฑ์ จะจ่ายเงินแต่ละทีต้องมีความรอบคอบ อย่างคำว่า จดก่อนจ่าย นี่ดูลงตัวกับคนอิตาเลี่ยเป็นอย่างยิ่ง และขณะเดียวกันหนุ่มอิตาเลี่ยนก็เป็นพวกขี้ระแวง ระแวงไปหมดกลัวว่าคนอื่นจะมาเอาเปรียบ มาโกง หรือมาหลอกลวง แต่เขาก็เป็นคนที่มีความรับผิดชอบต่อครอบครัวสูงไม่แพ้หนุ่มยุโรปชาติใดด้วย กัน สำหรับเรื่องครอบครัว เขาถือว่าการสร้างครอบครัวเป็นสิ่งที่ดี ดังนั้นคนอิตาเลี่ยนจึงไม่ค่อยเกื้อหนุนพ่อแม่ญาติทางฝ่ายภรรยาเท่าไหร่ อยู่แบบตัวใครตัวมัน และไม่ค่อยชอบให้ญาติทางฝ่ายภรรยาเข้ามายุ่งวุ่นวายด้วย
ติด ตรงที่หนุ่มๆอิตาเลี่ยนมักรักง่ายหน่ายเร็วนี่สิ จึงเกิดปัญหาการหย่าร้างสูงมากในบ้านเขา ซึ่งเขาก็พยายามมองหาสาวนอกประเทศดูบ้าง เผื่อจะรักกันได้ยาวนานขึ้น สาวไทยก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เขามองว่าถ้ามีเมียไทยเมื่อไหร่ถือเป็นความโก้ เก๋สุดๆ หนุ่มอิตาเลี่ยนส่วนใหญ่เลยนิยมหาเมียสาวไทยไว้ประดับบารมี และโชว์เพื่อนฝูง





หนุ่มสวีเดน
ที่ผ่านมาในอดีต สาวไทยอาจต้องชอกช้ำระกำใจกับการคบหาหนุ่มสวีดิช เนื่องจากถูกกีดกันอย่างหนัก เพราะประเทศเขามองว่าผู้หญิงไทยเป็น ผู้หญิงอย่างว่าซะเป็นส่วนใหญ่ เมื่อแต่งงานกับสาวไทยแล้วบางรายถึงกับถูกจับแยกห้องนอนกับสามี ถูกโขกสับสารพัด เพราะครอบครัวทางสามีไม่สนับสนุนให้คบกัน แต่เดี๋ยวนี้ ยุคสมัยเปลี่ยนไป ผู้หญิงไทยเก่งขึ้น ค่านิยมเก่าๆ เหล่านั้นจึงแทบไม่เหลืออีกต่อไป สาวไทยทั้งหลายจึงเดินหน้าเฮฮาปาร์ตี้กันถ้วนหน้า
และ เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่นานๆ จะได้เจอหนุ่มต่างชาติที่นิสัยละม้ายคล้ายคนไทยมากที่สุด ประการแรกคือเรื่องครอบครัว ชาวสวีเดนนั้นจะยึดถือเรื่องครอบครัวเป็นหลักเหมือนคนไทย เนื่องด้วยเขาสืบทอดวัฒนธรรมนี้มาจากบรรพบุรุษ การดูแลครอบครัว รักเพื่อนพ้อง ญาติมิตรจึงเป็นเรื่องที่เขาไม่มองข้าม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเขาอาจจะไม่ได้เทคแคร์ดูแลพ่อแม่มากเท่า คนไทย หนุ่มสวีดิชเป็นพวกรักเมีย และแคร์ครอบครัวของเมียไม่น้อยเช่นกัน
ส่วนประการที่สองก็คือเรื่องความเจ้าชู้ เรียกได้ว่าหนุ่มสวีเดนเจ้าชู้พอๆ กับหนุ่มไทยไม่มีผิด หรือบางครั้งอาจมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นเฉพาะตอนหนุ่มๆ เท่านั้นแหละ ส่วนแก่ๆ นะไม่เท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ไม่มีแรงจะซ่าแล้ว
ถือ ว่าคนสวีเดนเป็นชาวยุโรปที่ใช้ภาษาอังกฤษดีที่สุดพอๆกับชาวฮอลแลนด์ และเป็นคนชาติเดียวในยุโรปที่มีลักษณะนิสัยคล้ายคลึงกับชาวเอเชียมาก อย่างเช่น การอยู่รวมกันเป็นครอบครัว จึงไม่แปลกที่หนุ่มสวีดิชจะเข้าอกเข้าใจสาวไทยที่รักและเป็นห่วงครอบครัวของ ตนเป็นอย่างดี





หนุ่มฮอลแลนด์
หนุ่มแดนทิวลิป เป็นผู้ชายอีกประเทศหนึ่งที่ใส่ใจครอบครัว เขาจะมีความรับผิดชอบต่อครอบครัวสูง ให้ความสำคัญกับลูกเมีย แต่เมียอาจไม่ได้สบายนั่งๆ นอนเหมือนอย่างที่คิด เพราะต้องช่วยกันทำมาหากินตามความเหมาะสม ถ้าไม่ทำงานนอกบ้านก็ต้องทำหน้าที่แม่บ้านที่ดีไม่ให้ขาดตกบกพร่อง แต่ที่ขึ้นชื่อที่สุดของชาวดัตช์คือ ความขี้เหนียว จะควักเงินทียากยิ่งกว่าถอดกางเกงเดินกลางสวนสาธารณซะอีก ดังนั้นถ้าคิดจะคบกับหนุ่มดัตช์แล้วละก็ ลืมไปได้เลยกระเป๋าหลุยส์วิคตองเป็นของขวัญวันเกิด
ส่วน นิสัยอื่นๆก็จะเหมือนๆกับชาวยุโรปทั่วไปคือ เป็นคนมีน้ำใจ อัธยาสัยดีมีมนุษย์สัมพันธ์ แต่ระวังก็มีหนุ่มฮอลแลนด์บางคนก็ดูถูกสาวไทยไม่น้อยมองว่าที่สาวไทยอยากไป อยู่เมืองนอกเพราะหวังเกาะผัวกินและพอปีกกล้าขาแข็ง ก็บินไปหาผัวใหม่(อันนี้ผู้มีประสบการณ์เขาเล่ามาว่าอย่างนั้น)
เพราะฉะนั้นเราอาจจะเห็นว่า หนุ่มดัตช์บางคนที่มาเมืองไทยอาจไม่ค่อยสุภาพอย่างที่คิดไว้นัก เพราะเขาไม่รู้ว่าสาวไทยแต่ละคนเป็นแบบไหนและอยากบอกว่าหนุ่มดัตช์ที่มา เมืองไทย อาจมีรสนิยมที่แหวกแนวคือ ไม่ได้เจาะจงหาสาวไทยเป็นเท่านั้น แต่เพราะกระเทยไทยหัวใจสีชมพูก็ถูกใจเขาไม่ใช่น้อย หนุ่มๆ ชาวดัตช์จึงหวังที่จะได้กระเทยไทยไปทำมอสะระเอียด้วยเช่นกัน เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองเพศ





หนุ่มนอร์เวย์
หนุ่มนอเวย์เป็น ประเทศหนึ่งในโลกที่น้ำแข็งปกคลุมตลอดทั้งปี ดังนั้นหนุ่มๆ แดนไวกิ้งทั้งหลายจึงจัดว่าเป็นคนเย็นชา ไร้อารมณ์ เหมือนสภาพบ้านเกิด แต่ผิดถนัด เย็นชาแต่ก็ใช่ว่าจะเฉยชา เฉยเมย แต่เพียงเพราะเขาไม่ชอบแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออ กมา แบบว่ารักนะแต่ไม่แสดงออกนะใช่เลย และถ้าว่างเมื่อไหร่หนุ่มๆนอร์เวย์ทั้งหลายก็จะออกไปสังสรรค์กั บเพื่อนฝูงกินเหล้าแก้หนาวกันซักหน่อย หรือบางทีก็แพ็คกระเป๋าออกตะลอนทัวร์ไปหาไออุ่นยังต่างประเทศ แบบแบกเป้ใบเดียวเที่ยวได้ทั่วโลก เขาจะชอบเป็นชีวิตจิตใจ
เนื่องจากความรักสนุก ชอบการผจญภัย และชอบความท้าทายนั่นเองจึงอาจทำให้สาวๆมองว่าหนุ่มนอร์เวย์เจ้าชู้ แต่มันก็แค่นิดๆ หน่อยๆ เล็กน้อยมากตามมาตรฐานผู้ชายทั่วไป เช่น แค่มอง แค่คุยขำๆ เทียบไม่ได้กะหนุ่มไทยพันธุ์ไก่แจ้ เพราะเขาไม่ได้เจ้าชู้พระยาเทครัวเรียกพี่นะจ๊ะ
นอก จากนั้นที่นอร์เวย์เขายังถือกันว่า หากหนุ่มๆชาวนอร์วีเจี้ยนตนไหนได้แต่งงานกับสาวไทย ถือเป็นความโชคดีสุดๆ เพราะสาวไทยสวย มีเสน่ห์ เป็นที่ต้องตาต้องใจของหนุ่มๆชาวนอร์วีเจี้ยนเป็นอันมาก ที่สำคัญคือเป็นแม่บ้านแม่เรือน เอาอกเอาใจสามีเก่ง ประมาณว่าไปทำงานหนาวๆ กลับมาเจอเมียช่างปรนนิบัติอย่างสาวไทยแค่เข้ามาบีบๆ นวดๆ ก็แทบหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง





หนุ่มเดนมาร์ก
หนุ่ม เดนส์แห่งฟาร์มโคนมเดนมาร์ก เป็นหนุ่มที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับสาวไทยก็อาจจะลำบากหน่อย แต่แม้ว่ารูปร่างจะต่างกันขนาดไหนเรื่องความสูงอาจมีปัญหาในแนวตั้ง แต่ไม่มีปัญหาในแนวนอน ..อิอิ
ว่า ไปแล้วผู้ชายเดนมาร์กเป็นพวกอารมณ์ดี มีความสุขตลอดเวลา จัดอยู่ในเกณฑ์ยิ้มง่าย ยิ้มอยู่นั่นแหละ และมีอารมณ์ขัน...ส่วนใหญ่จะรักสันติ หลีกเลี่ยงการปะทะหรือการเผชิญหน้า รักความสนุกสนาน เลยไม่ค่อยพลาดงานเฮอาปาร์ตี้เท่าไหร่ และที่สำคัญคือรักธรรมชาติมากๆ จนถือได้ว่าพี่แกเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตัวยงเลยทีเดียว
ซึ่ง ถ้าสาวไทยคนไหนกำลังคบหาดูใจกับหนุ่มเดนส์อยู่ การเอาอกเอาใจเขาก็ไมใช่เรื่องยากนัก เพราะเมืองไทยมีธรรมชาติสวยๆ เยอะ ทั้งทะเล น้ำตก ภูเขา ลองได้พากันไปเที่ยวสักครั้งหนึ่ง รับรองว่าต้องได้คะแนนหัวใจไปเพียบแน่
นอก จากนั้นหนุ่มเดนส์ยังควบคุมอารมณ์ได้ดี ไม่ค่อยมีประเภทตบจูบให้ขวัญผวา มีความเป็นสุภาพบุรุษสูงปรี๊ด ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เอาเปรียบผู้หญิงเหมือนหนุ่มๆแถวนี้ ยิ่งสาวๆที่พี่เดนส์แกปิ๊งดวยแล้ว เรียกว่าพี่แกทุ่มหมดใจ รักหมดชามเลยละ

หนุ่มเบลเยี่ยม
สุภาพและเป็นมิตร คือคำนิยามที่เหมาะสมที่สุดของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ชาวเบลเยี่ยม ถึงแม้หน้าตาของหนุ่มๆ ประเทศนี้ออกจะดูเคร่งขรึมไปสักหน่อย แต่ถ้าเดือดร้อนเข้าให้(จริงๆ) เขาก็พร้อมจะช่วยเหลือเต็มที่ ขัดกับใบหน้าอันนิ่งเฉยนั้นอย่างแรง ดังนั้นเราจึงอย่าตัดสินคนแค่เพียงภายนอก แม้ว่าหน้าตาเขาอาจดูไม่ค่อยเป็นมิตรนัก แต่ลึกๆแล้วเขาอาจเป็นคนมีน้ำใจ แบบผู้ชายเบลเยี่ยมนี้แหละ
ข้อ ดีของหนุ่มๆเบลเยี่ยมอื่นๆ ก็คือการมีอัธยาศัยดี ชอบผูกมิตรกับคนรอบข้าง และยินดีที่จะคุยกับเราแม้ว่าภาษาอังกฤษเราจะ สเนคๆ ฟิชๆ (งูๆปลาๆ)แค่เขารู้ว่าเราพยายามที่จะพูดให้เขาเข้าใจ เขาก็พร้อมที่จะรับฟังและแปลภาษามือภาษาไม้ที่เราส่งไปให้แล้ว ซึ่งนับว่านิสัยผู้ชายเบลเยี่ยมนั้นเปรียบเสมือนหนังสติ๊กที่สามารถยืดได้หด ได้ ยืดหยุ่นตามสถานการณ์จะพาไป เรื่องความขยันเอาการเอางานก็ไม่แพ้ชาติไหนแน่ โดยเฉพาะเรื่องเกมส์การค้าขาย เขาก็ไม่เป็นสองรองใครอีกต่างหาก
แต่ สำหรับหนุ่มเบลเยี่ยมตั้งแต่อายุ 40 ขึ้นไปจะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยกระดิกเท่าไหร่นัก ส่วนพวกอายุต่ำกว่า 40 ลงมาจัดว่าคล่องปร๋อ เคยมีคนพูดว่า นำนิสัยของคนยุโรปทุกชาติมายำรวมกันแล้วเป็นคนเบลเยี่ยมคนเดียว ดังนั้นพี่แกจึงมีความหลากหลายไม่น่าเบื่อ
หาก เจอหนุ่มเบลเยี่ยมบางคนที่อาจไม่เป็นมิตรนักก็ต้องทำใจหน่อย เพราะเขาค่อนข้างระมัดระวังตัวตัวไม่น้อยเนื่องจากไม่อยากให้ใครมาหลอก ส่วนบางรายที่ดูมีเล่ห์เหลี่ยมจัดก็มี อย่างว่านะเดี๋ยวนี้คนเราฉลาดขึ้น คำนึงถึงผลประโยชน์มากขึ้น บางทีเมืองที่น่ารัก สวยงาม เต็มไปด้วยวัฒนธรรมเก่าแก่ และดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างเบลเยี่ยม ผู้คนบางส่วนก็ไม่ค่อยเป็นมิตรนัก แต่ส่วนใหญ่จะน่ารักน่าคบ
หนุ่มสเปนหนุ่มสเปน เมืองกระทิงดุส่วนใหญ่เป็นหนุ่มกำยำล่ำสัน หน้าคมคิ้วเข้มผิวสีแทน และแววตาสวยเป็นประกายแวววับ หากได้ลองสบตากับสาวไหน รับรองว่าสาวเจ้าต้องอ่อนระทวย แต่นับว่าผู้ชายสเปนเป็นพวกนิสัยออกจะทะลึ่งทะเล้นนิดๆ และชอบขี้เล่น หนุ่มๆ สเปนมักไม่ค่อยเครียด ชอบความสนุกสนาน ร่าเริง เฮฮาปารืตี้ เอ็นจอยกับชีวิตไปเรื่อย เลยอาจทำให้ดูเหมือนพวกรักสนุกไปวันๆ ไม่จริงจังกับชีวิต แต่เอาเข้าจริงเขาก็เอาการเอางานเป็นที่หนึ่งเหมือนกัน





หนุ่มสเปน
มีนิสัยเป็นกันเอง ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อมให้เสียอารมณ์ ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ เป็นคนง่ายๆ สบายๆ แบบเบิร์ด แต่ข้อเสียคือ พี่แกเจ้าชู้ใช่เล่น อาจเรียกได้ว่าเป็นนักรักตัวยงไม่แพ้หนุ่มไทยเลยทีเดียว แต่ก็เฉพาะก่อนแต่งงานเท่านั้นนะ พอแต่งงานไปแล้วก็ไม่มีตุกติกกุ๊กกิ๊กอะไรให้ต้องระแวงระวัง
นอก จากนั้นหนุ่มสเปนยังเคร่งศาสนามาก มากกว่าชาติอื่นๆ ในยุโรป ซึ่งส่วนใหญ่จะนับถือนิกายคาทอลิกเป็นหลัก ด้วยความที่เป็นคนเคร่งศาสนาจึงส่งผล(ดี) ให้หนุ่มๆ ชาวสเปนไม่ค่อยทำตัวเหลวไหล ออกนอกกรอบ ไม่กล้าออกนอกลู่นอกทาง รักครอบครัว รับผิดชอบ ซื่อสัตย์ต่อภรรยา เมื่อเป็นเช่นนี้หนุ่มสเปนจึงไม่ค่อยกล้าแอบเหล่สาวๆ เท่าใดนัก เพราะกลัวห้ามใจตัวเองไม่ได้นะเซ่!!(เพราะไม่อยากเป็นบาป)
ซึ่ง ถ้าสาวไทยเกิดสนใจหนุ่มสเปนตาคมขึ้นละก็ คุณต้องพยายามมากสักหน่อย เหนื่อยก่อนแต่งงานนี่แหละที่ต้องทำให้เขาหยุดหัวใจไว้ที่คุณให้ได้ แต่ในเมื่อหญิงไทยอย่างเรามีดีซะอย่างจะกลัวอาร้าย...จริงม้า





หนุ่มแคนาดา
แคนาดา เป็นอีกประเทศหนึ่งที่เป็นเหมือนเบ้าหลอมของความหลากหลายชนชาติ แตกต่างวัฒนธรรม อันได้แก่ อังกฤษ อเมริกา และฝรั่งเศส ฯลฯ ดังนั้นสังคมของประเทศแคนาดาเลยมีส่วนผสมของชนชาติต่างๆ มากมายเต็มไปหมด ซึ่งแม้แต่คนแถบเอเชียเอง อย่างเช่น ฟิลิปปินส์ จีน อ่องกง อินเดีย หรือ ปากีสถาน ฯลฯ ก็เก็บข้าวของไปตั้งรกรากและทำงานที่แคนาดากันมากมาย
ดังนั้นเราจึงไม่สามารถเจาะจงได้แน่ชัดว่าหนุ่ม หนุ่มๆ แคนาดาจะมีนิสัยยังไงกันแน่ ขึ้นอยู่กับว่าหนุ่มหน้ามนคนนั้นพำนักอาศัยใกล้ชิดฝั่งใดมากกว่า หรือต้องสังเกตว่าเขาซึมซับนิสัยของชนชาติอะไรมาไว้ในตัวมากที่สุด
ซึ่งถ้าได้นิสัยของผู้ชายอังกฤษมาเยอะละก็ แน่นอนเลยคือเป็นพวกหนุ่มมีฟอร์มจัด สุขุม ตระหนี่ จริงจังกับชีวิต หรือถ้าได้เชื้อหนุ่มฝรั่งเศสเสียส่วนใหญ่เค้าจะเป็นผู้ชายโรแมนติกไม่เบามี รสนิยมการกินอยู่ แต่งตัวที่ดีและถ้าแต่งงานกันไปเขาก็จะรักครอบครัวมากเลยทีเดียว
แม้ลักษณะเหล่านี้จะไม่ใช่อุปนิสัยกำพืดแท้ๆ ของหนุ่มแคนาดา แต่ทว่ามันกลายเป็นเอกลักษณ์ของหนุ่มแคนาเดี้ยนไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าหากสาวๆ คนไหนเกิดประทับใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั้งชาติ อังกฤษ ฝรั่งเศส หรืออเมริกาขึ้นมา แล้วยังเลือกไม่ถูกว่าจะควงหนุ่มๆชาติไหนดี เอาเป็นว่าลองเลือกหนุ่มแคนาดาไว้พิจารณา ก็นับว่าได้ข้อดีถึงสาม....ในคนๆเดียวเชียวละ

SCAMMER

SCAMMER ชื่อนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเล่า


scammer คำนี้คงไม่ใช่ชื่อใหม่สำหรับนักท่องเวปที่นิยมหาคู่
หรือทำธุรกิจใน internet แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยใช้คงไม่ค่อย
คุ้นหูกันเท่าไหร่ และไม่รู้ว่าคำนี้คืออะไร แต่ถ้าคุณลองใช้คำๆ นี้
ค้นหาใน google ก็จะพบว่ามีคนหลายๆคนที่ถูกหลอกลวงจาก
scammerเยอะมาก และวิธีที่พวกนีใช้ก็จะคล้ายๆกัน







สำหรับสาวๆที่มองหาคู่ใน internet จะรุ้ได้ยังไงว่า
คนที่คุณคุยด้วยนั้นใช่หรือเปล่า ลองมาอ่านหัวข้อตามนี้
แล้วก็ลองนะค่ะว่าใช่หรือไม่


1. รูปถ่ายดูดีมาก
ส่วนใหญ่พวก scammer มักจะใช้รูปถ่ายที่หน้าตาดูดีของคนอื่น
ส่งมาให้คุณ ทำให้สาวน้อย สาวใหญ่ ฝันละเมอถึงความหน้าตาดีของ
พ่อหนุ่มที่คุยด้วยนักหนา แต่ความจริงส่วนใหญ่พวกนี้
จะเป็นชาวผิวดำ มาจากทาง ไนจีเรีย และมักจะบอกว่าตัวเอง
เป็นคนอังกฤษ (ก็ไม่รู้ทำไม มันดูดีมั้ง )

2. ไม่เคยเห็นกันในเวปแคม
เนื่องจากพวก scammer นำรูปคนอื่นมาลง จึงไม่สามารถเปิดเผย
โฉมหน้าที่แท้จริงให้คุณรู้ได้ มักมีข้ออ้างไปเรื่อย ว่าทำงาน
ในกองทัพบ้าง ทำงานในเรือขนส่งสินค้าบ้าง ทำให้ไม่สามารถ
เปิดกล้องกับคุณได้ ทั้งที่อยาก เปิดกล้องให้คุณดูใบ
หน้าอันหล่อเหลาใจแทบขาด ( ฮะ ฮะ กลัวเปิดมาแล้วจะ
ทำให้คุณวิ่งหนีแทบไม่ทัน)

3. ภาษาอังกฤษที่ใช้คุยกับคุณ
หลายท่านที่เก่งภาษาคงงงไม่น้อยที่เจ้าของภาษาเอง
บางที่ใช้ภาษาได้แย่ กว่าคุณซะอีก ( ก็แหงล่ะ ก็ scammer
เป็นคนผิวดำ บางที่ภาษาแย่กว่าเราอีก หรือไม่ก็ใช้ google พิมพ์
แล้วแปลส่งมาให้เราเลย )

4.หน้าที่การงานดี และบางทีรำรวยสุดๆ
พวก scammer มักจะอวดความร่ำรวยให้คุณๆ ฟัง ว่ามีเงิน มีบ้าน
มีรถยนต์ อย่างงั้น อย่างงี้ เพื่อทำให้สาวๆ บางคนวาดวิมานในอากาศ
ที่มันจะไม่มีวันเกิดขึ้น บางทีเขียนมาว่ารำรวยมาก จนอดทำให้คิดว่า
ถ้ารวยมากขนาดนี้ มันยังมีเวลามานั่งคุยกับเราอีกน่ะ

5. ชมคุณซะคุณเป็นนางฟ้า
บ่อยครั้งที่มักจะบรรยายสรรพคุณของคุณซะเสิศหรู
ราวกับคุณเป็นน้างฟ้า มาเดินบนดินก็ไม่ปาน หรือไม่ก็เขียน
พรรณณาถึงความรักที่มี่ต่อคุณราวกับว่าเค้าเกิดมาเพื่อคุณเพียง
คนเดียว ทั้งนี้เพื่อให้คุณหลงคารม แต่ช้าก่อนไม่ต้องดีใจไป
เพราะเค้าไม่ได้เขียนแบบนี้แค่คุณคนเดียว

6.เดินทางมาพบคุณ
หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าคุณเริ่มมีใจให้เค้า หรือเริ่มรักเค้า
พวกนี้ก็จะดำเนินการแผนต่อไป จะส่งข้อความว่าเค้ารักคุณมาก
และอยากเห็นหน้าคุณ อยากใช้ชีวิตคู่กับคุณและกำลังจะเดินทาง
มาพบคุณ แต่เมื่อใก้ลเวลาที่เค้าจะมาถึง จะมีจดหมาย
หรือโทรศัพท์ แจ้งว่า ตอนนี้ลูกเค้าไม่สบายอยุ่แถวๆ
แอฟริกา ,ไนจีเรีย และไม่สามารถ เบิกเงินจากธนาคารได้
จะขอยืมเงินคุณหน่อย โดยให้คุณโอนเงินไปให้
( เบิกเงินมันจากธนาคารไม่ได้ แต่มันเบิกเงินจากธนาคาร
ที่เราส่งไปให้ได้ เออ เอากันมัน) แต่ถ้าคุณหลงเชื่อ
หลังจากที่ส่งเงินให้ คุณก็จะไม่เจอกพ่อยอดชายที่แสนดี
คนนี้อีกต่อไป

7.ส่งของมีค่ามาให้คุณ
พวกนีหลังจากรู้จักคุณไม่นานก็บอกว่าจะส่งของมีค่ามาให้คุณ
แต่สักพักก็จะมีโทรศัพท์มาหาคุณว่าของที่ส่งมาให้โดนกักอยู่
ที่มาเลเซีย คุณจะต้องเสียค่าภาษี ค่านั้นค่านี่
แล้วพอคุณบอกไม่มีเงิน ก็บอกไม่เป็นไร คุณมีเท่าไหร่
เค้าจะลดค่าภาษีให้ ( อืม เพิ่งรู้ว่าสามารถต่อรองกันได้)

สำหรับ scammer ป้องกันได้ไม่ยาก ถ้าคุณอยู่บนพื้นฐาน
ของความเป็นจริงและไม่ต้องการทรัพย์สิน ของคนอื่น
คุณก็จะไม่ตกเป็นเหยือของแก็งค์เหล่านี้และถึงแม้ว่า
จะมีการเขียนเตือนกันขนาดไหน ปัจจุบันก็ยังมีบางคนที่ยังตกป็นเหยื่อ

ข้อดีข้อเสีย การมีแฟนเป็นคนต่างประเทศ







กระแสนิยมมีแฟนเป็นชาวต่างประเทศค่อนข้างเป็นที่นิยมในไทย

ก็มีเหตุผล หลายอย่าง หลายแบบ ไม่มีใครตอบได้ว่ามีแฟนคนไทย

หรือคนต่างประเทศดีกว่ากัน เพราะแต่ละคนก็มี

ประสบการณ์แตกต่าง วันนี้เรามาฟังข้อดี ข้อเสีย

ก่อนการตัดสินใจ ว่าจะมีแฟนหรือคบคนต่างประเทศกันดีกว่า

( ผิดถูกก็ว่ากันอีกทีนะคะ)

ข้อดี

1.การเทคแคร์
เนื่องจากวัฒนธรรมในการดูแลผู้หญิงของต่างประเทศ ทำให้สาวไทยอย่างเราๆ
เมื่อได้ประสบถึงกับรู้ถึงความแตกต่างกับหนุ่มไทย ( บางคน)

2.ไม่แคร์อดีตของคุณ
สำหรับสาวไทยบางคนซึ้งอดึตผ่านการมีครอบครัวมีลูกมาแล้ว ค่อนข้างจะลำบาก
ที่จะได้มีรักใหม่กับหนุมไทยที่หน้าที่การงานดี ถึงแม้จะรักกันแล้วก็จะมีปัญหาตามมาที่หลัง
เพราะจะมีแรงกดดันมาจากครอบครัวของฝ่ายชาย แต่สำหรับแฟนต่างประเทศเรื่องนี้ไม่มี
ประเด็นสักเท่าไหร่ เท่าที่ได้อ่านมาจากหลายๆคู่

3.การแชร์ชีวิตและการยอมรับความคิดเห็น
เคยเป็นมั้ยค่ะที่เวลาเรามีแฟนคนไทย (บางคน) เวลาที่เราพูดอะไรไป ก็เหมือน
กับ ว่าความคิดของเรามันดูไร้ความคิดในสายตาเค้าหรือว่าบางทีเราก็กลับมาคิด
ว่าความคิดเรามันงี้เง่า จริงๆ เหรอ สำหรับคนต่างประเทศค่อนข้างทีจะเปิดใจ
กับความคิดของเราพร้อมทั้งเคารพ การตัดสินใจของเรา


ข้อเสีย

1. การสื่อสาร
สำหรับสาวไทยอย่างเราๆ ซึ่งส่วนใหญ่ปัญหาหลักๆ ที่มีก็คือ

รื่องของการสื่อสาร บางทีการสือสารที่ต้องตีความหมายก็อาจทำให้
มีเรื่องกันบ้างเป็นบางครั้ง

2. ไม่ง้อถ้าคุณจะงอน
คนต่างประเทศเมื่อได้เจอกับสาวไทย ถึงกับอึ้งกิมกี๋ ว่าทำไมสาวไทยเป็น
คนที่รู้สึกอ่อนไหวง่ายจัง แต่ถ้าคุณมีแฟนคนไทยเค้าจะเข้าใจผู้หญิงไทยใน แง่นี้
ได้เป็นอย่างดี ( เฮ้อ!!! ดีตรงนี้แหล่ะ)

3. การพูดตรงไม่อ้อมค้อม
สำหรับสาวๆ บางคนที่ชอบฟังอะไรที่มันไพเราะเสนาะหู คิดว่าหาได้ยากกับแฟนฝรั่งนะค่ะ
เพราะเค้าพูดปากหวานไม่ค่อยเป็นเหมือนหนุ่มไทยหรอก ใจคิดยังไงก็บอกคุณไปแบบนั้น
บางครั้งคุณอาจรับไม่ค่อยได้ เพราะถ้าคนไทยจะพยายามหาวิธีพูดเพื่อรักษาน้ำใจของคนอื่น



นี่ก็เป็นตัวอย่างที่ประสบมาเองบ้างและฟังจากที่คนอื่นเล่ามาบ้างไม่มีคำตอบแน่นอนตรงตัว
เพราะแต่ละคนก็แล้วแต่ความคิด และประสบการณ์แฟนคนไทย หรือคนต่างประเทศ ไม่สำคัญ
สำคัญแค่ว่าคุณรักกับใครคุณมีความสุข ความสบายใจ แล้วไม่เดือดร้อนใครก็พอแล้ว

เคล็ดลับ การขจัดคราบบนเสื้อผ้า












หลายคนคงเคยประสบปัญหาที่แก้ไม่ตกในการซักผ้า นั่นก็คือการขจัดคราบสกปรกที่ฝังลึกอยูในเนื้อผ้าให้หลุดออกง่ายๆ ซึ่งบางครั้งการแช่ทิ้งไว้นานๆ ก็ยังไม่สามารถที่จะขจัดรอยเปื้อนให้หมดไปได้ วันนี้เรามีวิธีการขจัดครบฝังลึกในรูปแบบต่างๆ มาฝาก


เสื้อผ้าสีขาวที่เริ่มจะกลายเป็นสีเหลือง
สามารถแก้ไขได้โดยใช้เปลือกไข่ป่นละเอียด ใส่ลงไปในอ่างแช่ผ้า ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงซักเสื้อผ้าที่เลอะคราบครีม เนย น้ำมันขจัดคราบโดยนำแป้งที่ใช้สำหรับทาตัวมาโรย ใช้กระดาษทิชชู หรือกระดาษบางอื่นๆ วางทับ นำเตารีดที่มีความร้อนพอสมควร ทับบนกระดาษ จนแป้งดูดคราบออกจนหมด แล้วจึงนำไปซัก
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือด ขจัดคราบโดยนำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปขยี้น้ำออก


สื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือดจางๆ

ฃจัดคราบโดยใช้เบคกิ้งโซดาผสมน้ำสักเล็กน้อย จนแป้งข้นๆ ถูเบาๆ เมื่อแห้งจึงปัดฝุ่นออก
เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบเลือดฝังแน่นขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำเย็น ที่ผสมเกลือจนชุ่ม ถูเบาๆ จนรอยค่อยๆ จางลง แล้วใช้น้ำเปล่าถูอีกครั้ง สุดท้ายใช้ทิชชูซับน้ำให้แห้ง


เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบกาแฟ
ขจัดคราบโดยใช้แป้งข้าวเจ้าถู แล้วซักได้ตามปกติ


เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบชอกโกแล็ต
ขจัดคราบโดยรีบนำไปแช่น้ำอุ่นทันทีที่เปื้อน อาจใช้น้ำยาขจัดคราบฝังแน่น ช่วยด้วย จากนั้นนำไปซักแห้ง
เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำตาเทียนขจัดคราบโดยใช้ก้อนน้ำแข็งขูดเกล็ดเทียนออกให้มากที่สุด จากนั้นจึงใช้กระดาษประกบบริเวณที่เปื้อนทั้ง 2 ด้าน แล้วใช้เตารีดอุ่นๆ รีดทับจนน้ำตาเทียนซึมออกมาติดกับกระดาษ
เสื้อผ้าที่เลอะโคลนขจัดคราบโดยปล่อยให้โคลนแห้ง ใช้แปรงปัดออก ซักด้วยน้ำเย็นหลายๆ ครั้ง จนไม่มีน้ำโคลนออกมา จึงซักด้วยผงซักฟอก


เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำชา
ขจัดคราบโดยรีบเทน้ำเดือดลงบนรอยเปื้อนบนผ้าที่ยังเป็นรอยใหม่อยู่จนสีจางลงแล้ว รีบนำไปซักทันที ให้ซักในน้ำอุ่นกับสบู่ ถ้ายังไม่ออก ให้ใช้น้ำยาฟอกขาวเช็ด แล้วจึงซัก


เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำผลไม้
น้ำมันพืชขจัดคราบโดยให้ขึงผ้าที่เปื้อนบนปากถัง เทน้ำเดือดลงตรงรอยเปื้อน แล้วจึงซัก


เสื้อผ้าที่เลอะน้ำมันขัดเงา
ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำชุบทินเนอร์ทาบริเวณที่เปื้อนในขณะที่ยังเปียกอยู่ ใช้น้ำยาซักผ้า
ขยี้ตรงรอยเปื้อนทันที นำมาแช่ในน้ำอุ่น แล้วรีบซักทันที


เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำมันดิบ
ขจัดคราบโดยขูดน้ำมันดิบที่ติดอยู่ออกด้วยมีดที่ไม่คม แล้วถูด้วยน้ำมันสน
หรือน้ำมันก๊าดหรือน้ำมันเบนซิน (ห้ามใช้น้ำเด็ดขาด)

เสื้อผ้าที่ขึ้นราเล็กน้อย
ขจัดคราบโดยรีบนำผ้าที่ขึ้นราใหม่ๆ ซักในน้ำสบู่ร้อนๆ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ /
ให้บีบมะนาวลงไป แล้วแช่ผ้าไว้ในผงซักฟอกสักครู่ จึงซักผ้าตามปกติ

เสื้อผ้าที่เปื้อนรอยสนิม
ขจัดคราบโดยนำผ้ามาชุบน้ำให้เปียกก่อน บีบน้ำมะนาวลงไปบนรอยเปื้อน
ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงนำไปซักตามปกติ

เสื้อผ้าที่เลอะคราบเบียร์
ขจัดคราบโดยซักในน้ำเย็นทันที หรือใช้แปรงจุ่มน้ำเย็น แปรงตรงรอยเปื้อนทันที
เสื้อที่เลอะคราบน้ำมันรถ (น้ำมันเครื่อง)ขจัดคราบโดยใช้มะนาวถูบริเวณที่เปื้อน
จนรอยเปื้อนจางลง แล้วจึงนำไปซัก

เสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำส้มสายชู
ขจัดคราบโดยผสมแอมโมเนีย 1 ช้อนชา ในน้ำ 2 ถ้วย (ครึ่งลิตร) แล้วแช่ 2-3 นาที
ล้างออกแล้วซักตามปกติ

เสื้อผ้าที่เลอะคราบน้ำหมึก
ขจัดคราบโดยก่อนซักให้นำเกลือป่นโรยตรงรอยเปื้อน แล้วบีบน้ำมะนาวลงไปให้ชุ่ม
ผึ่งแดดไว้ครึ่งวัน จึงค่อยนำไปซัก

เสื้อผ้าที่เลอะกาว
ขจัดคราบได้โดย ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดที่รอยเปื้อน นำมาแช่ในน้ำเย็น แล้วซักตามปกติ

เสื้อผ้าที่เลอะขี้ผึ้ง
ขจัดคราบโดยการวางกระดาษซับบนรอยเปื้อนแล้วกดด้วยเตารีดที่ร้อน
เปลี่ยนกระดาษจนกระทั่งไขทั้งหมดถูกดูดซับไปหมด ถ้าเป็นผ้าที่บาง หรือผ้าไหม
ให้ใช้กระดาษทิชชู และเตารีดที่เย็นกว่า

เสื้อผ้าที่เลอะไข่
ขจัดคราบได้โดยให้ผสมน้ำยาซักผ้ากับน้ำอุ่นซัก

เสื้อผ้าที่เลอะยางกล้วย
ขจัดคราบโดยใช้มะนาวที่ฝานเป็นชิ้นบางๆ ถูตรงรอยเปื้อน ที่เป็นคราบดำ แล้วรีบนำมาซักทันที
เสื้อผ้าที่เลอะยาทาเล็บขจัดคราบโดยซับที่รอยเปื้อนด้วยน้ำยาล้างเล็บ และเช็ดด้วยผ้าที่สะอาด จนกระทั่งรอยเปื้อนจางลง (ควรลองหยดน้ำยาล้างเล็บลงผ้าก่อน)

แหล่งที่มา http://sites.google.com/site/sitesample